“เร็วไปหรือเปล่าที่จะเอาลูกเข้าโรงเรียนตอน 2 ขวบ” และ “ลูกไม่ได้เข้าเตรียมอนุบาลจะได้หรือเปล่า” คำถามเหล่านี้มักเกิดขึ้นในหัวใจแม่ๆ และคนรอบข้าง วันนี้ถ้าคุณกำลังตัดสินใจว่าจะเอาลูกเข้าโรงเรียนเมื่อไหร่ดี ลองฟังความคิดเห็นของต้นบ้าง แต่ก็ไม่ต้องเชื่อสิ่งที่ต้นเขียนไปทั้งหมด เพราะมันไม่ได้แปลว่าต้นคิดถูกนะคะ
การเอาลูกเข้าโรงเรียนเป็นการตัดสินใจของพ่อแม่ หรือผู้ปกครองผู้ที่เป็นคนเสียค่าเทอมให้กับน้อง ดังนั้นการตัดสินใจเอาลูกเข้าโรงเรียนจึงเป็นความตกลงร่วมกันระหว่างคนไปรับไปส่ง คนดูแลน้อง และคนที่จ่ายค่าเทอม ซึ่งก็ควรจะให้จบกันแค่นี้ หากคุณได้รับแรงกดดันจากเพื่อนบ้าน ญาติคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดูแลบุตรหลาน ก็ไม่ควรเอามาประเด็นใส่ใจ
ที่ต้องพูดเกริ่นแบบนี้ ก็เพราะหลายคนได้รับคำตำหนิจากเพื่อนบ้านว่า จะเอาลูกเข้าโรงเรียนทำไม พัฒนาการก็ไม่ได้แย่ และมีการเปรียบเทียบกับลูกหลานของตัวเองเป็นทอดๆ
ซึ่งการเลี้ยงเด็กนี้ ควรขึ้นอยู่กับผู้ปกครองมากกว่า
เด็กควรเข้าโรงเรียนตอนอายุเท่าไหร่ถึงไม่ป่วย

ตามหลักแล้ว 6 ขวบเป็นช่วงที่ภูมิคุ้มกันของเด็กนั้นแข็งแรงพอที่จะออกสู่โรคภายนอกแล้ว ซึ่งนั่นก็ช้าไปกับการเรียนรู้กล้ามเนื้อมัดเล็ก มัดใหญ่
คุณหมอพัฒนาการที่ต้นไปปรึกษานั้น เป็นการนัดตามช่วงอายุของน้อง
หากเป็นต่างจังหวัด จะมี อสม. ชุมชน ที่ดูแลเรื่องนี้
แต่แปลกที่สังคมส่วนหนึ่งไม่พาลูกหาหมอพัฒนาการ แต่เลือกฟังคนอื่นมากกว่า
ต้นอยากจะบอกว่า ความคิดของคนที่ผ่านการเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานนั้นไม่ผิด เราฟังได้ แต่หากเราจะตัดสินใจอะไรสักอย่าง ผู้ปกครองควรรอบคอบ และปรึกษาร่วมกันกับคนที่ช่วยเราเลี้ยง
อย่างเคสลูกสาวต้น ถ้าเทียบกับเด็กวัยเดียวกัน น้องถือว่ามีพัฒนาการตามเกณฑ์ 2 ขวบทุกอย่าง ส่วนเรื่องจะเอาเข้าโรงเรียนเพื่อเรียนเตรียมอนุบาลหรือไม่นั้น บ้านเรากะจะไม่ให้เข้า รอเข้าตอน 3 ขวบกว่าทีเดียว
แต่เมื่อเช็กพัฒนาการรอบ 2 ขวบ คุณหมอแนะนำว่า
- น้องสามารถไปไกลได้มากกว่านี้ แต่น้องชะงัก
- น้องมีอาการสมาธิเริ่มหลุด (แต่ไม่ได้ร้ายแรง)
จึงปรึกษากันในครอบครัวว่า มันจะดีกว่าไหม ถ้าพาน้องได้เจอกับสังคมที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเขาได้มากกว่านี้
เมื่ออยู่ที่บ้าน คนในครอบครัวก็ต้องทำงาน พื้นที่ในบ้านมีจำกัด ไม่มีที่ให้วิ่งเล่น ดังนั้นการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ กับมัดเล็กจึงถูกจำกัด
การใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กมัดใหญ่ ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวร่างกายในช่วง 5-7 ขวบ ถ้าเราจำกัดเขาตอนนี้ ช่วงเวลานั้นก็จะช้าไปกันใหญ่
คุณหมอบอกว่าแป้งหอมเก่ง ที่สามารถอยู่กับหมอได้ 2 ต่อ 2 โดยทิ้งพ่อกับแม่ไว้นอกห้องได้ ..จึงแนะนำว่าถ้าอยากจะพาเข้าโรงเรียนก็ได้ แต่หมอให้พ่อกับแม่ตัดสินใจกันเอง

วางแผนให้แป้งหอมเรียน 3 ภาษาในอนาคต โรงเรียนที่เราเลือกให้แป้งหอมเข้านั้นมีการสอบคัดเลือกตอนอนุบาล 2 บางคนมองว่าเร็วเกินไป แต่แผนการสอนของโรงเรียนอยู่ในขอบเขตที่ไม่ได้กดดันเด็กจนเกินความเป็นเด็กมากไป
ดังนั้นเราจึงตัดสินในพาแป้งหอมสมัครเรียนเตรียมอนุบาล
สมัครสมาชิก Shopee Mom’s Club รับส่วนลด และเก็บโค้ดส่งฟรี รวมสินค้าแม่และเด็กชั้นนำ คลิกที่นี่
[ติดตามต่อตอนที่ 2]
ด้วยความปรารถนาดีจากว่าที่คุณแม่มือใหม่ ♥
