เลี้ยงลูกช่วงลาคลอด 3 เดือน
สวัสดีค่ะ วันนี้ก็เลยกำหนดครบฉีดวัคซีน 1 เดือนมาสองสามวัน ก็ถือโอกาสตอนลูกหลับมาเล่าประสบการณ์หลังคลอดลูกคนแรก ซึ่งมีเพื่อน ๆ ถามมาว่า “ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปมากไหมแก?” แน่นอนว่ามันต้องเปลี่ยนแปลงไปอยู่แล้ว มาดูกันว่าจะวุ่นวาย หรือ มีความสุขขนาดไหน
4 วันแรกในโรงพยาบาล
ช่วงวันแรก ๆ ที่ยังพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาล ยังโลกสวยอยู่ นอนรอเพื่อน ๆ มาเยี่ยม ทั้งเพื่อนฝั่งพ่อ เพื่อนฝั่งแม่ รอรับของเยี่ยมเป็นผ้าอ้อมนานายี่ห้อ จนไม่ต้องซื้อเองและใช้เกือบไม่ทัน นอกจากนี้ยังมีความหวังดีจากญาติพี่น้องหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ เพราะช่วงคลอดลูกเป็นช่วงวินาทีความเป็นความตายที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตผู้หญิง
หากถามว่า “แผลผ่าคลอดเจ็บไหม?” มันเจ็บแบบพอทนได้ แต่ถ้าเทียบกับตอนปวดเบ่งคลอดนั้น ไม่เจ็บเลย ปวดเบ่งคลอดเป็นอะไรที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตแล้ว
7 วันแรกหลังจากออกจากโรงพยาบาล
ก็ยังได้อยู่.. ยังตื่นเต้นกับการมีสมาชิกใหม่ อะไร ๆ ก็ยังพอทำได้อย่างทุลักทุเลแบบพ่อแม่มือใหม่ โดยเฉพาะลูกคนแรก ไหนจะจับอุ้ม จับวาง จับเรอ จับไม่ดีเขาจะผวา สัปดาห์แรกยังรู้สึกว่าเขาเลี้ยงไม่ยาก ต้องเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้สะอาด อาบน้ำให้ดี Clean สุด ๆ เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ถี่เข้าไว้ แต่ก็ตื่นบ่อย กลางคืนตื่น 5 ครั้ง แต่ก็ไม่งอแง
14 วันหลังจากออกจากโรงพยาบาล
น้องเริ่มมีอาการท้องอืดเนื่องจากปรับตัวกับนมผสมไม่ได้ นมผสมยี่ห้อใหม่ที่ใช้หลังจากออกจากโรงพยาบาลมีผลทำให้เขาไม่ย่อย อ้วกเป็นลิ่มนม เขาเรอไม่ออก ปวดท้องบิดตัวน่าสงสาร คนเป็นแม่ใจจะขาด ..จะหอบลูกไปโรงพยาบาลคุณย่าบอกไม่ต้อง มันเป็นเรื่องปกติของเด็ก และต้องใช้มหาหิงคุ์เข้าช่วย
แล้วก็ต้องนอนเปิดไฟด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะเด็กจะปรับตัวยาก แต่ผู้เขียนก็ทำไปด้วยความไม่รู้ เพราะปวดแผล เดินไปเปิดไฟบ่อย ๆ ตอนกลางคืนไม่ไหวจากเตียง ไปสวิตช์ไฟในช่วงสะลืมสะลือตอนกลางคืนมันดูไกลมาก
แล้วก็ต้องยอมชงนมผสมด้วย ในช่วงที่ปวดแผลต้องการการพักผ่อนมาก ๆ ซึ่งพอให้นมผสมแล้วลูกก็มีลมในท้อง ต้องฝึกจับเรอ จับนั่งเรอ กลางคืนแทบไม่ได้นอน
จนนึกถึงคำพูดพยาบาลเนิร์สเซอรี่ที่ว่าแทบจะต้องอยากเอากลับไปฝากที่วอร์ดเหมือนเดิม
21 วันหลังจากออกจากโรงพยาบาล
ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดเริ่มก่อตัวร้ายแรงขึ้นจนน้ำนมหด ร้ายแรงจนออกมาเป็นหยด ๆ เท่านั้น คือต้องเผชิญกับการปรับตัว และมีแต่ความกังวลถึงชีวิตช่วงหลังคลอด กลัวจะไม่เหมือนกับตอนที่ยังไม่มีลูก กลัวจะไม่ได้ไปเที่ยว กลัวสามีไม่รัก กลัวว่าต้องมีภาระการเงินเพิ่มขึ้น มีอาการผวา นอนกลางวันแล้วตื่นมากลัวลูกหาย ซึ่งหลัง ๆ อาการจะดีขึ้นและหายไปเอง
ตอนที่คิดว่าตัวเองเศร้ายังมีอีกหลากหลายอาการ เช่น กลัวลูกไม่รัก กลัวลูกรักคนอื่นมากว่า ซึ่งสุดท้ายแล้วการมีสมาชิกใหม่ เป็นเรื่องที่ทุกคนในครอบครัวต้องปรับตัว ไม่ใช่แค่มนุษย์แม่คนเดียว เป็นสถานะที่ต้องยอมรับว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ต้องเลี้ยงดูเขาอย่างดีที่สุด แล้วเขาก็จะมีภูมิคุ้มกันเป็นความรักจากครอบครัวของเราไปปกป้องเขาเอง
นอนไม่พอ หรือ ไม่ได้นอน
ด้านล่างนี้เป็นตัวอย่าง ช่วงเวลาที่ลูกจะตื่นมากินนมแม่ ถ้าเขาได้นมแม่ไม่อิ่ม ผู้เขียนก็จำเป็นต้องให้นมชงไปบ้าง ไม่อย่างนั้นเขาไม่สงบ สงสารเขา และตอนนี้แม่ก็พยายามเร่งเพิ่มน้ำนม กินทุกอย่างที่เขาว่าดี
เห็นได้ว่าเขาจะตื่นเกินวันละ 12 มื้อไปแล้ว
กว่าจะคิดได้ขนาดนี้ หมดน้ำตาไปหลายก็อก..
ใครที่กำลังซึมเศร้าหลังคลอดอยู่ ผู้เขียนบอกได้คำเดียวว่า ไปปรึกษาจิตแพทย์เถิดค่ะ ไม่ยาก เดินเข้าไปโรงพยาบาล แล้วบอกกับ Reception แล้วเขาก็จะแนะนำไปเอง.. ตัวผู้เขียนเองก็ว่าจะไปขอรับคำปรึกษาเช่นกัน
ด้วยความปรารถนาดีจากว่าที่คุณแม่มือใหม่ ♥
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ได้ที่ >> สารบัญ Siwika Maternity <<
หรือพูดคุยกันได้ทาง Facebook.com/tonhomsiwika นะคะ
แนะนำแอปซื้อของใช้เด็กจากร้านตัวแทน >> Shopee
5 Comments