ตรวจเพศลูกโดยไม่ต้องเจาะน้ำคร่ำแม่ได้จริงหรือ?
คือเรื่องนี้เป็นประเด็นที่ผู้เขียนฉงนอยู่นานมาก เนื่องจากเทคโนโลยีเมื่อก่อน เวลาจะตรวจดูโครโมโซมของเด็ก จะต้องตรวจด้วยวิธีเจาะน้ำคร่ำอย่างเดียว ซึ่งต้องใช้วิธีการแยงเครื่องมือเข้าทางช่องคลอด หรือ เจาะทางท้อง แต่ต้องรออายุครรภ์มาก ๆ เสียก่อน แต่เดี๋ยวนี้ อายุครรภ์ 10 สัปดาห์ขึ้นไปก็ตรวจเพศ ตรวจโครโมโซมได้แล้ว (รวมถึงการตรวจ DNA เพื่อหาความสัมพันธ์แบบพ่อแม่ลูกได้อีกด้วย)
ทำไมต้องตรวจโครโมโซม
ค่าใช้ในจ่ายการตรวจโครโมโซมในระยะที่อายุครรภ์ยังน้อย ๆ เริ่มต้น 5,000 บาท มีให้ตรวจที่โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์, โรงพยาบาลราชวิถี, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์, โรงพยาบาล BNH, โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และโรคพยาบาลอื่น ๆ ส่วนใหญ่ส่งผลตรวจตามห้องปฏิบัติการทั้งในไทย และ ต่างประเทศ
ตัวผู้เขียนเองก็เคยทำงานเป็นนักวิทยาศาสตร์ห้องปฏิบัติการพันธุศาสตร์.. เมื่อถูกถามว่ารู้เพศลูกเร็วไปไหม? ความจริงคนเราสามารถรู้เพศบุตรได้ตั้งแต่วันแรกที่ปฏิสนธิ แต่เป็นการปฏิสนธิภายใต้วิธีการผสมในห้องปฏิบัติการ ก่อนใส่ตัวอ่อนกลับเข้าไปในแม่ แต่ในกรณีที่ต้องตรวจเลือดแม่นั้น ระบุว่าต้องทำในอายุครรภ์ 10 – 12 สัปดาห์เป็นต้นไป โดยอาศัยหลักการที่ว่าเซลล์ของลูกจะหลุดเข้าไปในเลือดของแม่ผ่านทาง รก (เลือด) นั่นเอง
เทคนิคการตรวจโครโมโซมตอน อายุครรภ์ ยังน้อย
ดังนั้นเทคนิคการตรวจ ไม่ใช่การตรวจจากเลือดเด็กโดยตรง แต่เป็นการตรวจจากของเสียของเด็กที่ผ่านมาทางเลือดของแม่ ถือเป็นการอ่าน DNA ย้อนทบหลายตลบ (DNA Transcription) ด้วยวิธีการเพิ่มจำนวนดีเอ็นเอ (PCR) โดยให้ Primer Code 4 ตัวของโรคที่ต้องการตรวจทั้ง 4 โรค ใส่ลงไปในหลอดทดลอง ตามหาเซลล์ที่มีโครโมโซมผิดปกติ ซึ่งถ้าเซลล์ที่ผิดปกติหลุดมาเพียง 1 เซลล์ ก็สามารถตรวจสอบได้ ผลความแม่นยำอยู่ที่ 97 – 99% เลยทีเดียว (ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าได้ลูกสาว)
ความเสี่ยงของคนที่ต้องตรวจ “โครโมโซม”
ถ้าหากคุณเห็นผลแลปจากรูปบน จะเห็นว่าคุณหมอระบุความเสี่ยงของผู้เขียนไว้เพียง “ต่ำ” มาก (Low risk) แต่เพื่อความสบายใจ ผู้เขียนอยากตรวจ เนื่องจากประวัติในครอบครัวมีญาติสนิทที่มีบุตรเป็น Down Syndrome ตอนอายุไม่มาก (ประมาณ 30 ปี) ซึ่งตามปกติ หญิงที่มีความเสี่ยงจะอายุ 35 ปีขึ้นไป จึงคิดว่าตรวจไว้ก็ไม่เสียหาย แต่หากก่อนหน้านี้ผู้เขียนไม่มีประวัติพงศาวลีมาก่อน วันนี้ที่ตรวจ มี 4 คู่ ค่าใช้จ่าย 16,000 บาท (โรงพยาบาลให้จ่ายทั้งก้อน ถ้าจะผ่อนกับบัตรเครดิต จะต้องโทรไปขอกับธนาคารเอง) มาดูกันว่าแต่ละคู่หมายถึงอะไรบ้าง?
- โครโมโซมคู่ที่ 21 – โรคดาวน์ซินโครม
- โครโมโซมคู่ที่ 18 – โรค Edwards Syndrome อาการปากแหว่งเพดานโหว่ สติปัญญาสั้น ลักษณะคอเด็กจะยาวผิดปกติ
- โครโมโซมคู่ที่ 13 – โรค Patau Syndrome อาการปากแหว่งเพดานโหว่
- โครโมโซมคู่ที่ 24 – เป็นโครโมโซมเพศ ควรจะรู้ว่าเป็น XX (หญิง) หรือ XY (ชาย) ถ้าเป็น XXX, XXY ก็ถือว่ามีปัญหา
รกคือทางผ่านของ “เส้นเลือดดำ” “เส้นเลือดแดง”
แฟนถามว่าอย่างนี้ลูกจะรับอาหารและขับถ่ายผ่านแม่ทางรกได้อย่างไร เวลากินอาหารผ่านรก แล้วมันไม่สำลักเอาของเสียไปด้วยหรือ? เพราะว่า รก มีทั้ง “เส้นเลือดดำ” และ “เส้นเลือดแดง” ของดีเข้าไปทางเส้นเลือดแดงเสมอ และของเสียก็ออกทางเส้นเลือดดำ แล้วอาศัยร่างกายของแม่ไปฟอกที่ปอดและกระเพาะปัสสาวะ จึงขับของเสียออกทางร่างกายของแม่
จึงเป็นหลักการที่ว่าทำไมเราถึงอ่านรู้ข้อมูลของลูกผ่านทางเลือดของแม่ได้นั่นเอง
จากผลเลือด ถูกสูบออกไปประมาณ 10 CC ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้เขียนถูกเจาะเลือดออกจากตัวเยอะขนาดนี้ (น้ำหนักไม่ถึงบริจาคเลือด) เลือดถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ไปตรวจหลาย ๆ อย่างด้วยกัน และเผื่อไว้ตรวจโครโมโซมด้วย ส่วนผล Nifty นี้รู้ผลหลังจากเจาะเลือดประมาณ 2 สัปดาห์
ทีนี้ก็รู้แล้วว่าได้ลูกสาว ก็แอบไม่บอกสามีอยู่หลายชั่วโมงเพราะผู้เขียนคาดว่าได้ลูกชาย (เดาเพราะขนขึ้นเยอะ เลยคิดว่าต้องมีฮอร์โมนเพศชายเยอะแน่ ๆ) แต่ผู้เขียนก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี ขอรอดูผล Ultrasound 4D ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ดีกว่า
แต่ตอนนี้ก็มีภาพตอนอัลตราซาวด์ 10 สัปดาห์มาฝากกัน คุณสามีตื่นเต้นมาก ผู้เขียนก็ตื่นเต้น เพราะไม่คิดว่า อายุครรภ์น้อย ๆ แบบนี้จะเห็นเป็นรูปเป็นร่างว่าเด็กขยับและเต้นอยู่ในท้องได้ (ก่อนหน้านี้เห็นเป็นลูกอ๊อด) และลูกก็เต้นเยอะมากจนคุณหมอกดท้องแม่หลายรอบ มือน้องบังคอ .. แต่เห็นจมูกขนาดนี้ ในวัย 10 สัปดาห์ คนเป็นแม่ก็อุ่นใจ
คุณหมอเช็ค บริเวณมดลูก และ อุ้งเชิงกราน
ผลปกติ
ท่าเด็ก นอนหงายเอาท้องลง
สายยาว ๆ คือ สายสะดือ
ทางขวาคือขา
มุมนี้เห็นขา 2 ข้างของตัวน้อย
ทรงศีรษะกลมสวยมาก
จมูกดูสันเป็นคม
พอรู้ว่าเป็น “ลูกสาว” ด้วยความ Nice ของคุณหมอ อยากให้ลูกเป็นผู้หญิงที่มองโลกสวย ใจกว้าง พูดเพราะ อารมณ์ดีเหมือนคุณหมอ เลยขอ Duplicate ชื่อคุณหมอมาเป็นชื่อลูก และต้องมีชื่อแม่อยู่ด้วย เลยกลายเป็น “แป้ง – หอม” เฉยเลย .. (ตอนนี้ยังเป็นแป้งหอม.. หลังจากนี้อาจจะมีเปลี่ยนแปลงได้เพราะคิดชื่อใหม่มาทุกวัน)
ความตื่นเต้นของเพื่อน ๆ แม่
(ส่วนใหญ่ขอให้เรียก “น้า”)
ผู้เขียนรู้สึกว่าลูกดิ้นครั้งแรกตอนอายุครรภ์ประมาณ 13-14 สัปดาห์ เพราะมีการดีด และการแข็งตัว และเวลาหิว เหมือนมีอะไรกระเพื่อมน้อย ๆ ที่ท้อง ซึ่งถ้านับเดือนแบบไทยอยู่ที่ประมาณ 3 เดือน ครึ่ง .. ช่วงนี้ความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย นอกจากแพ้ท้องแล้ว คือ นอนไม่ค่อยถนัด พลิกท่าตลอด ต้องหาท่าที่ถนัด ตอนนี้เปลี่ยนหมอนแล้ว เดี่ยวมาอัพเดทให้ฟังค่ะ
2 Comments