รีวิวอยู่ไฟ เดลิเวอรี่ (คนโบราณห้ามพูดว่าร้อน)
“อยู่ไฟ” เป็นวัฒนธรรมการแพทย์แผนไทยแบบโบราณที่สืบทอดทำกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคใต้ ก็มีการอยู่ไฟที่แตกต่างกันไป วันนี้แม่ต้นหอมจะพามาชมรีวิวการอยู่ไฟของตัวเอง ในช่วงวันที่ 1-5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมากันค่ะ
(พิกัด : ชุดอุปกรณ์อยู่ไฟทำเอง)
หลังจากศึกษาอยู่นาน ทั้งจากเพื่อนรอบตัว และตามอ่านรีวิวแม่ ๆ ในกลุ่ม Herkid ก็แยกได้ 2 แนวคิด คือ ส่วนหนึ่งก็บอกว่าควรจะอยู่ไฟ เพราะจะช่วยลดความเมื่อยล้าและอาการหลังคลอด อีกกลุ่มหนึ่งบอกว่าหากผ่าคลอดแล้ว การอยู่ไฟนั้นไม่จำเป็น จะทำหรือไม่ทำก็ได้ เพราะคุณหมอได้ซับน้ำคาวปลาไว้ให้ตั้งแต่ผ่าแล้ว
คือตอนแรกชั่งใจอยู่นานว่าจะทำหรือไม่ทำดี เพราะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่เกือบหมื่น และใช้เวลา 5 – 6 ชั่วโมง แล้วต้องมีคนช่วยเลี้ยงลูก คอร์สที่ผู้เขียนเลือกมาในวันนี้ใช้เวลาทำ 5 ชั่วโมง (รวมพักเที่ยง) จึงฝากลูกไว้ให้คุณแม่เลี้ยงไม่นานนัก ก็พอไหว
สิ่งที่คาดหวังว่าจะได้จากการอยู่ไฟ คือ ลดอาการหนาวใน และ ให้หน้าท้องกระชับขึ้น เริ่มต้นหาข้อมูล เพื่อน ๆ ที่ไม่ได้อยู่ไฟ หลายคนก็ไม่ได้มีอาการหนาวใน แบบเห็นฝนตั้งเค้าก็หนาวแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าอนาคตอีก 20-30 ปี พอเข้าวัยทองแล้วจะหนาวเข้ากระดูกหรือเปล่า?

สำหรับการอยู่ไฟหลังคลอด ผ่าคลอดเขาให้อยู่ไฟ 30 – 45 วัน หลังผ่า ให้ชัวร์ว่าแผลแห้งแล้ว ของบริษัทที่ผู้เขียนใช้บริการมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 4,500 บาท มีทีมงานมาทำให้ที่บ้านค่ะ
แพ็คเกจที่นี่มีให้เลือก 4 แบบ ถ้าอยู่ ต่างจังหวัดจะเป็นแพ็คเกจ 6 ชั่วโมง 5 วันขึ้นไป (ราคา 8,500 บาท) แต่ถ้ากรุงเทพและปริมณฑลก็เลือกบริการถูกสุดอยู่ที่ 5 ชั่วโมงต่อวัน 4 วันขึ้นไป ได้ในราคา 5,500 บาท แต่ครั้งนี้แม่ได้ Voucher จากการทำกิจกรรมกับโรงพยาบาลมาเป็นส่วนลด 1,000 บาท คุ้มมาก ๆ !!
จองคอร์ส
เริ่มต้นคือต้องจองคอร์สกับเจ้าหน้าที่ ของบริษัทนี้ตัวแทนชื่อคุณขวัญค่ะ ในรายละเอียดรู้สึกว่าจะเป็นพยาบาลวิชาชีพ สายผดุงครรภ์ มาดูแลคอร์สอยู่ไฟ ส่งเจ้าหน้าที่กว่า 10 คน ให้บริการทั่วประเทศ สมุนไพรและยาต่าง ๆ มีเภสัชกรและคุณหมอผสมไว้ในบรรจุภัณฑ์ดูดี ติดสติ๊กเกอร์วิถีไทยอยู่ไฟดิลิเวอรี่ ทางบริษัทจะให้เจ้าหน้าที่โทรมาสอบถามเส้นทางก่อนล่วงหน้า 1 วัน พี่เจ้าหน้าที่ที่มาทำอยู่ไฟให้ผู้เขียนในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นี้มีชื่อว่า คุณนุช
โดยแต่ละวันจะทำเหมือน ๆ กัน ในโบชัวร์เขียนว่า 28 ขั้นตอน (รายละเอียดทั้งหมด อยู่ในเว็บไซต์ Click ที่นี่) ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 10.00 น. พักกลางวัน และสิ้นสุดใน 15.00 น. แต่หากจะขอเริ่มเร็วกว่านั้นเป็น 9.00 น. ก็ได้ แต่ผู้เขียนไม่สะดวก เพราะเป็นช่วงเวลากินนมของน้องแป้งหอมพอดี
อยู่ไฟ.. ต้องทำอะไรบ้าง?
หลัก ๆ ก็จะมีอาบน้ำสมุนไพรและขัดผิวด้วยขมิ้น และการนวดประคบท้อง ด้วยลูกประคบ จะทำซ้ำ ๆ เหมือนเดิมใน 28 ขั้นตอน ทุกวัน เพื่อให้อุณหภูมิร่างกายร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยขมิ้น และ การประคบ โดยในตอนเช้ายังไม่ต้องอาบน้ำ รอเจ้าหน้าที่มาต้มน้ำสมุนไพรให้ก่อน และขั้นตอนต่าง ๆ มีดังนี้
- ตรวจเช็คร่างกายในแต่ละวัน
- อาบน้ำสมุนไพร
- ผสมสมุนไพรนวดท้องด้วยการนึ่งหม้อเกลือ
- กล่อมมดลูกด้วยลูกประคบ
- ประคบหน้าท้องด้วยใบพลับพลึงสด
- ทายานึ่งหน้าท้อง
- ทาว่านหางจระเข้ลดผิวแตกลาย
- ประคบหน้าท้องด้วยอิฐร้อนนึ่งไฟ
- นวดคลายกล้ามเนื้อ (กดไม่แรงมาก)
- นวดฝ่ามือ
- นวดฝ่าเท้า
- นวดเข้าตะเกียบ
- นวดสลายเซลลูไลท์
- หากคลอดเองจะนั่งถ่าน ผ่าคลอดไม่ต้อง
- นวดหน้าอกเปิดท่อน้ำนม / ประคบหน้าอก
- ประคบตัวด้วยลูกประคบ
- รมตา (อันนี้ผู้เขียนไม่ได้ทำ)
- เข้ากระโจมอบสมุนไพรสด
- ขัดขี้ไคล
- ขัดผิว
- ขัดผิวด้วยสมุนไพรล้างสารพิษ
- ทำความสะอาดผิวโดยล้างด้วยน้ำสมุนไพร
- นวดตัวด้วยน้ำมันงา
- นวดหน้ากดจุด
- นวดศีรษะ
- นวดดึงผม
- คาดเอวอยู่ไฟด้วยชุดตำหรับหลวง
- ดื่มน้ำสมุนไพร
ซึ่งในรายละเอียดผู้เขียนก็เหมือนจะไม่ได้ทำทุกขั้นตอน น่าจะขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้นวดด้วย ข้อที่ไม่ได้ทำคือ 10, 11, 14, 17, 24 และ 27
เริ่มต้นด้วยการอาบน้ำสมุนไพรตอน 10.00 น.
คุณนุชจะมาก่อนเวลาสักครึ่งชั่วโมง เพื่อมานึ่งลูกประคบ น้ำสมุนไพรที่ได้ก็จะนำมาต้มอาบ หลังจากนั้นก็เริ่มอุ่นสมุรไพรที่ต้องใช้กับหม้อเกลือดินเผาเล็ก ๆ ซึ่งเตรียมมาพร้อมกับเตาแก๊สกระป๋อง






วันแรกเห็นผลเลยไหม?
หลังจากทำวันแรกก็อาจจะไม่ได้เห็นว่าหน้าท้องยุบอะไรขนาดนั้น แต่รู้สึกได้ว่ามันระอุอยู่ข้างใน เห็นผลจริง ๆ ก็วันที่ 2-3 ว่าเนื้อตรงหน้าท้องมันถูกโกยขึ้นมาได้จริง เพราะอุณหภูมิจากอิฐ ที่เหมือนกับเราไปทำด้วยเครื่องสลายเซลลูไลท์ในสถาบันเสริมความงาม แต่อันนี้ใช้ความร้อนจากอิฐช่วยเอา
หากถามว่าอยู่ไฟหลังคลอดแบบนี้ทำเองอยู่บ้านได้ไหม? หากที่บ้านมีคนช่วยทำก็ทำได้ ยกเว้นการกล่องมดลูก กับการนวดหน้าท้องด้วยอิฐ จะต้องเป็นคนที่รู้การกดจุดประมาณหนึ่ง ไม่อย่างนั้นแล้วแม่ ๆ จะระบม และอาจจะไม่เห็นผล
อีกขั้นตอนที่สำคัญคือการเข้ากระโจม เพื่อล้างพิษ คือแต่ละขั้นตอนสำคัญนี้จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที (นวดท้อง,นวดท้องด้วยอิฐ และเข้ากระโจม) พอผ่านไปแต่ละวันทางผู้นวดบอกว่าอุณหภูมิร่างกายของคุณแม่หลังคลอดจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ เรียกเป็นภาษาคนนวดว่า “อุณหภูมิจับ” ซึ่งวันที่ 4 จะรู้สึกเหมือนผิวจะไหม้หลังจากถูกลูกประคบ แต่ความจริงแล้วทุกวันใช้อุณหภูมิเท่ากันนวด
ส่วนการอยู่ในกระโจมนั้น เหงื่อจะไหลเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ในวันถัดไป การเข้ากระโจมก็คือจะต้มน้ำสมุนไพรไว้ใต้เก้าอี้ วันแรกก็ถอดผ้าถุงแค่ครึ่งตัว วันต่อ ๆ ไปให้ถอดทั้งหมด เหงื่อจะลงมากองที่พื้นจนชื้นกันเลยทีเดียว

หลังจากนี้หากต้องการอยู่ไฟด้วยตัวเอง ก็สั่งกระโจมมาทำเองก็ได้ (สั่งได้ตาม Shopee คลิกที่นี่) พวกสมุนไพรสดก็มีขายให้มาต้มเอง โดยเราเสียบหม้อหุงข้าวไว้ใต้เก้าอี้เหมือนที่เจ้าหน้าที่ทำให้เราก็ได้
ค่าใช้จ่ายทั้ง 4 วัน ถามว่าเห็นผลไหม? เมื่อทำครบแล้วก็รู้สึกว่าหน้าท้องที่โกยขึ้นมาเนื้อมันขึ้นมาเติมเต็มใต้ชายโครงจริง ๆ แล้วอาการจั๊กจี้หน้าท้องที่เคยขยายตอนท้องเวลาฟอกสบู่ก็ลดลง แต่เรื่องขัดผิวนั้นผู้เขียนเฉย ๆ อาจเป็นเพราะมันเป็นสิ่งที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น
หากคุณ ผ่าคลอด แล้วกำลังคิดว่า “ทำอยู่ไฟดีไหม?” ให้รีบตัดสินใจในช่วงหลังคลอดก่อนจะผ่าน 30-45 วัน ควรจะรีบทำให้เร็วที่สุดเพราะผิวจะเริ่มสมานสร้างพังผืดแล้ว ถ้าไม่ทำแล้วไปทำตอนลูก 4 เดือนได้ไหม ก็ยังคงได้อยู่ ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์ และผู้ที่มาทำอยู่ไฟให้คุณนะคะ
สุดท้ายนี้ คนโบราณเขาเตือนไว้ว่า อยู่ไฟ ไม่ว่าจะยังไงห้ามพูดว่า “ร้อน” น่าจะเป็นกุศโลบาย เพราะยิ่งคิดว่าร้อนก็จะร้อนไปกันใหญ่
สำหรับวันนี้หวังว่าข้อมูลที่ผู้เขียนนำมาเสนอจะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่าน..หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการอยู่ไฟ แนะนำให้สอบถามกับสูตินรีที่ดูแลคุณอยู่ดีที่สุด เพราะร่างกายของคุณแม่แต่ละคนมีภาวะหลังคลอดที่ไม่เหมือนกัน หากแข็งแรงก็สามารถซื้อชุดอยู่ไฟที่บ้านมาทำเองได้เหมือนกัน
อ่านเรื่องราวแนะนำอื่น ๆ :
- แชร์ประสบการณ์หลังคลอด 1 เดือน กับลูกสาวผู้ตื่นกินวันละ 12 มื้อ++
- วิธีให้นมแม่ เครดิต แผนกเนอร์สเซอรี่ โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน
- น้ำนมเหลืองหน้าตาเป็นอย่างไร มากี่วัน
- ทำไมคนสมัยก่อนถึง (กล้า) มีลูกเยอะ ๆ
- ทำยังไงดี? น้ำนมแม่หด ไม่มีนมแม่เลี้ยงลูก
ด้วยความปรารถนาดีจากว่าที่คุณแม่มือใหม่ ♥
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ได้ที่ >> สารบัญ Siwika Maternity <<
หรือพูดคุยกันได้ทาง Facebook.com/tonhomsiwika นะคะ
4 Comments