ปวดหัว.. เมื่อเคยเป็นคนที่กินกาแฟทุกวัน แล้ววันหนึ่งเตรียมมีน้อง และตั้งครรภ์แล้วก็ต้องบอกลากาแฟ สิ่งที่รู้สึกก็คือร่างกายไม่กระฉับกระเฉง ทำอะไรก็ดูเหนื่อยล้าไปหมด.. เหล่านี้ไม่ใช่อาการคิดไปเอง แต่เป็นเพราะช่วงหนึ่งเคยได้รับคาเฟอีนไปมาก ๆ จนเกือบจะติดไปเสียแล้ว
คาเฟอีน (Caffeine) เป็นสารประกอบในธรรมชาติ ที่มีโครงสร้างโมเลกุลพอดีกับสารสื่อประสาทประเภทหนึ่ง ซึ่งเป็นตัวรับส่งความรู้สึก เมื่อมันรับสารนี้เข้ามาจึงเข้าใจไปว่าต้องเร่งให้ร่างกาย Alert ซึ่งหากได้รับทุกวันบ่อย ๆ แล้ววันหนึ่งขาดขึ้นมา มันก็มีอาการเกือบลงแดง เหมือนกับคนไม่ได้เสพยาได้เหมือนกัน แต่ไม่รุนแรงขนาดนั้น
คนท้องห้ามกินกาแฟเลยหรือเปล่า?
ตามความเข้าใจทั่วไป ในสังคมเราจะรู้แค่ว่า ในกาแฟ จะมีคาเฟอีก และไม่ควรกิน ซึ่งจริง ๆ แล้วคนท้องกินได้ แต่ก็ควรงด และไม่ควรกินเยอะ ส่วนจะกินได้เท่าไหร่นั้นมาดูกันค่ะ
ปริมาณ คาเฟอีน ใน “เครื่องดื่ม” เรียงลำดับได้ดังนี้
12 มิลลิกรัม —-> นมช็อกโกแลต
25 มิลลิกรัม —-> Energy Gel 1 ซอง / ชาเขียว 1 แก้ว
34 มิลลิกรัม —-> น้ำอัดลม 1 แก้ว
40 มิลลิกรัม —-> Dark Chocolate 50 กรัม
42 มิลลิกรัม —-> ชาดำ (Black Tea) 1 แก้ว
45 มิลลิกรัม —-> Coke Zero
57 มิลลิกรัม —-> กาแฟ 3 in 1 – 1 Shot (8 fl oz)
60 มิลลิกรัม —-> กาแฟธรรมดาเพียว 1 Shot
80 มิลลิกรัม —-> กระทิงแดง 1 ขวด
กาแฟลำดับต่อ ๆ มาก็จะเข้มขึ้นตาม Shot ไม่ว่า Americano, Espresso, Coffee Mocha, Latte ก็ล้วนแต่มี คาเฟอีนอยู่ในระดับ 150 มิลลิกรัม ซึ่งก็เกือบจะเทียบเท่าถึงระดับสูงสุดต่อวัน ที่ร่างกายรับได้ ใน 200 มิลลิกรัมต่อวัน
คนปกติ |
คนท้อง |
|
ไม่ควรเกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน | > 200 มิลลิกรัม | < 200 มิลลิกรัม |
1 หน่วยบริโภค ไม่เกิน 50 มิลลิกรัม | ดื่มได้มากกว่า 1 ขวด | ดื่ม 1 ขวดก็ไม่เกิน 50 มิลลิกรัม |
หมุนเวียนในร่างกาย | 40 – 60 ของน้ำหนักตัว | ผ่านน้ำนมเข้าสู่รกได้ |
เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน | ทุกอย่าง | ชา, ช็อคโกแลต, กาแฟเพียงเล็กน้อย |
ในชาหรือกาแฟ ตัวคาเฟอีนนี้จะละลายมาอยู่ในเส้นเลือดได้ และพบว่าดูดซึมมาตั้งแต่กระเพาะอาหาร – ลำไส้ และดูดซึมในส่วนของลำไส้เยอะที่สุด ของแม่เองก็จะส่งต่อให้ลูกผ่านเส้นเลือดไปสู่รก มีกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมอาหารประเภทนี้ว่าต้องมีโรงงานผลิตที่เหมาะสม และ ต้องแสดงสูตรต่อทางหน่วยงานที่ดูแล และต้องมีปริมาณคาเฟอีนไม่เกิน 50 มิลลิกรัมต่อหน่วยบริโภค
**อ้างอิงข้อมูลจาก http://www.bangkokhealth.com เรื่อง “เครื่องดื่มผสมคาเฟอีน”
เนื่องจากกาแฟธรรมดา 1 แก้ว ก็เกิน 50 มิลลิกรัมไปแล้ว จึงเป็นที่มาของคำว่า “คนท้องควรงดกาแฟ” หากห้ามใจตัวเองไม่ได้จริง ๆ ก็ปรับมาเป็น นมช็อกโกแลต หรือ ชาเขียวแทน
ส่วนพวก ชาเย็น, ชาไข่มุก ทั้งหมดนี้กินได้ เพราะมีการควบคุมว่า 1 หน่วยบริโภค ห้ามใส่สารที่มีคาเฟอีนเกิน 50 มิลลิกรัม แต่ว่าก็ไม่ควรกินติดกันทุกวัน และไม่ควรกินในช่วงไตรมาสแรก (หรือ 5 เดือนแรก) เพราะว่าลูกกำลังสร้างอวัยวะและสมองอยู่ในครรภ์
แต่สิ่งที่ห้ามจริง ๆ คือพวกการทำโบท็อกซ์ และ เลเซอร์ เนื่องจากจะไปทำให้การเติบโตของเซลล์ต่าง ๆ ผิดปกติ ทั้งเซลล์ต่อมน้ำนม ต่อมน้ำเหลืองของแม่ ไปจนถึงระบบของเด็ก ดังนั้นควรทำหลังคลอดไปแล้ว 2 ปี หรือจนกว่าจะไม่ได้ให้นมแล้ว เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณแม่และลูกค่ะ!
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ได้ที่ >> สารบัญ Siwika Maternity <<
หรือพูดคุยกันได้ทาง Facebook.com/tonhomsiwika นะคะ
9 Comments